Gichner Shelter Systems เป็นบริษัทผู้ผลิต Shelter ทางทหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ในธุรกิจของการออกแบบ ผลิตและพัฒนา Shelter น้ำหนักเบาสำหรับการติดตั้งบนยานพาหนะทางยุทธวิธีให้กับทั้งหน่วยงานทางทหารและที่ไม่ใช่ทหารมากว่า 40 ปี และผลิตให้กับกองทัพสหรัฐทุกเหล่าทัพรวมทั้งประเทศพันธมิตรด้วยครับ
Gichner มีพนักงานที่มีประสบการณ์กว่า 900 คนทำธุรกิจเกี่ยวกับ Shelter และส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ ทำให้มีความชำนาญในการตอบสนองและบริการให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
บริษัท Gichner ได้นำเสนอแนวความคิดในการออกแบบระบบใหม่ นั่นก็คือ "ให้ Gichner ออกแบบ Shelter สำหรับระบบของลูกค้า ไม่ให้ลูกค้าออกแบบระบบสำหรับ ไอเดียเกี่ยวกับ Shelter ของคนอื่น" Gichner ออกแบบและผลิต Shelter หลากหลายรูปแบบครับ จากขนาดเล็กกระทัดรัด แบบติดตั้งบนรถพ่วง จนถึงสำหรับรถกึ่งพ่วง(รถหัวลาก) วัสดุที่ใช้ก็มีตั้งแต่ที่เป็นเหล็กจนถึงอลูมีเนียม อัลลอยที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งเป็นที่นิยมมาก
Shelter แต่ละแบบจะมีรหัสขึ้นต้นด้วยตัว S ครับ เช่น S-778/G ครับ มีชื่อเรียกเล่นๆว่า The Lightweight, Multipurpose Shelter: LMS หรือตู้เชลเตอร์อเนกประสงค์น้ำหนักเบา ที่มีน้ำหนักเบาแต่ทนทานสูงออกแบบสำหรับรถฮัมวี่ HMMWV กองทัพบกสหรัฐได้เลือกให้เป็นแพล็ตฟอร์มหลักสำหรับระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ติดตั้งบนยานพาหนะทางยุทธวิธี การออกแบบที่ทนทานแข็งแรงตอบสนองความต้องการภารกิจทางทหาร ในขณะที่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้รับการปกป้องจากความเสียหาย นอกจากนี้ยังรองรับการเคลื่อนย้ายระบบด้วยอากาศยาน C-130 ได้ด้วย
S-280 C/G เป็นเชลเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดภายใต้ความต้องการในสภาวะแวดล้อมของสนามรบ ด้วยน้ำหนักเบา ความทนทานสูง ปกป้องทุกสภาพอากาศ ทำให้รุ่นนี้ตอบสนองได้ทุกความต้องการในการใช้งานสำหรับระบบสื่อสารและการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทนทานทั้งข้างในและข้างนอก เป็นอุปกรณ์ที่ทนต่อสภาพอากาศและภูมิประเทศที่เลวร้าย
นอกจากนี้ยังมี Shelter ขนาดใหญ่สำหรับรถกึ่งพ่วง ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ด้วยอากาศยาน
เช่นติดตั้งบนรถฮัมวี่
ติดตั้งเป็นแบบอาคารกองบัญชาการทางยุทธวิธี ซึ่งใช้เวลาในการติดตั้งไม่นาน
สำหรับผมแล้วมันน่าสนใจนะครับ ส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็นเป็นผลิตภัณท์สำเร็จรูปออกมาเลยระบบสำหรับการใช้งานทางยุทธวิธี หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เราไม่ค่อยได้สนใจว่าใครเป็นผู้ผลิตส่วนประกอบ แม้จะเป็นส่วนที่สำคัญและเห็นเป็นรูปลักษณ์ภายนอกก่อนเลย
ที่มา www.army-technology.com
0 comments:
Post a Comment