การพัฒนา Primusแนวความคิดหรือแผนที่จะนำปืนใหญ่อัตราจรมาใช้ใน SAF เริ่มขึ้นในช่วงปี 1990 ระบบเดิมที่มีอยู่หลายหลายระบบได้รับการพิจารณาเพื่อจะนำมาใช้ แต่ทั้งหมดก็ไม่สามารถการตอบสนองความต้องการของ SAF ได้ ซึ่งต้องมีขีดความสามารถในการเคลื่อนที่สูง เคลื่อนย้ายบนภูมิประเทศที่แตกต่างกันตั้งแต่ถนนจนถึงดินอ่อน จึงมีการสร้างปืนใหญ่แบบใหม่อย่างสมบูรณ์ ทำให้การพัฒนาของ Primus เริ่มต้นในเดือนพฤษภาคม ปี 1996 ชิ้นส่วนที่สำคัญได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของ SAF ต้นแบบแรกสำเร็จในเดือนเมษายน ปี 2000มีการทดลองอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาสองปีที่ต่อมาและมีการทดลองยิงกว่า 2,000 นัดก่อนที่ระบบจะได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน ปี 2002 Primus เสร็จสมบูรณ์เป็นครั้งแรกในระหว่างการฝึก Thunder Warrior ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2004
การออกแบบ PrimusPrimus ใช้เกราะของปืนใหญ่ M109 155mm ของกองทัพสหรัฐมาดัดแปลง (ปัจจุบันคือ BAE Systems) ป้อมปืนถูกติดตั้งบนแชสซีอลูมิเนียมที่ออกแบบเองยานพาหนะี่รองรับกำลังพลได้ 4 คนคือ ผบ.ประจำปืน, พลขับ, พลกระสุนและพลชนวน มันถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการบรรทุกได้มากเพื่อเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่เป้าหมายได้ภายในเวลาอันสั้นด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้ในการ Primus ช่วยให้ใช้กำลังพลเพียงสี่นายก็สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปืนใหญ่อัตราจรนี้มีหลายชิ้นส่วนที่ใช้ร่วมกับยานรบทหารราบแบบ Bionix (IFV) ที่พัฒนาโดย SAF
ระบบอาวุธปืนใหญ่ขนาด 155mm ความกว้างปากลำกล้องขนาด 39 mm สามารถใช้ร่วมกันได้กับกระสุนนาโต้ เป็นปืนที่สามารถยิงได้ในอัตราสูงสุดของหกนัดต่อนาที อัตราการระเบิดสามรอบใน 20 วินาที ปืนที่มีความสามารถในการยิงในอัตราคงที่ที่สองนัดต่อนาทีเป็นเวลา 30 นาทีระยะยิงของปืนที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับมุมยิงและส่วนผสมของฉชนวน Primus ประสบความสำเร็จในการยิงสูงสุด 30 กม. ด้วยกระสุนต่อระยะ และมีอาวุธยิงสำรองเป็นปืนกลขนาด 7.62mm
ระบบควบคุมการยิงระบบควบคุมการยิงหลักสามารถควบคุมโดยระบบควบคุมการยิงอัตโนมัติ (AFCS) ที่มาพร้อมกับความแม่นยำของเป้าหมายตามตารางการคำนวณกระสุนและ ballistic การคำนวณที่ถูกต้องของหลักฐานยิง,ข้อมูลของกระสุน, การปรับแก้สำหรับความไม่แน่นอนของกระสุนและการสภาพแวดล้อม จะคำนวนโดยคอมพิวเตอร์ ข้อมูลเป็นเป้าหมายจะถูกส่งมาจากกองพันหรือผู้ตรวจการณ์ข้างหน้าผ่านระบบ DATALINKการป้อนกระสุนอัตโนมัติจากลังกระสุนขนาด 22 นัดรอบโดยใช้ระบบการจัดการของภารกิจยิงที่โหลดได้ทันที ระบบฟิวส์อัตโนมัติ (AFS) กำลังได้รับการพัฒนาโดย ST Kinetics สำหรับเอฟเฟกส์ของการระเบิด AFS สามารถใช้ร่วมกับฟิวส์ทุกประเภทตามมาตรฐานนาโต
ความอยู่รอดในสนามรบความสามารถในการยิงและการเคลื่อนย้ายของปืนใหญ่ช่วยเพิ่มความอยู่รอดในสนามรบได้ดี และใช้เวลาในการเปลี่ยนจากสภาพพร้อมยิงจนถึงพร้อมเคลือนย้ายน้อยกว่า 60 วินาทีเพื่อเข้าสู่ที่ตั้งสำรองการที่เป็นปืนใหญ่อัตราจรของ Primus ทำให้มีความมั่นใจว่าจะสามารถอยู่รอดจากการตอบโต้ของศัตรูได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 76mm สำหรับการยิงระเบิดควันเพื่อป้องกันตัวเอง เครื่องยนต์มีการป้องกันด้วยระบบดับเพลิง Fess
เครื่องยนต์Primus ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ดีทรอยต์ดีเซล 6V92TA คู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ HMPT - 500 - 3EC เครื่องยนต์ที่มีกำลังถึง 550hp
การเคลื่อนที่ยานพาหนะมีความสามารถในการเคลื่อนที่สูงสามารถทำงานเคลื่อนย้ายบนภูมิประเทศที่แตกต่างกันตั้งแต่ถนนจนถึงดินอ่อน ติดตั้งอุปกรณ์หาตำแหน่งและระบบนำทางสำหรับการปฏิบัติงานแบบอัตโนมัติระบบจะช่วยให้ปืนใหญ่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและยังช่วยลดเวลาในการปฏิบัติงานด้วยคนได้ Primus มีความเร็วสูงสุด 50 กม./ชม. และระยะปฏิบัติการไกล 350kmความสามารถในการปีนเขาลาดชันเป็น 60% สามารถลุยน้ำลึกของ 1.1m โดยไม่ต้องเตรียมการ โดยใช้ airportable เดียวกับเครื่องบินแอร์บัส A400M
Specification : SPH PRIMUS
Origin : Singapore
Weight : 28.3 tonnes
Caliber : 155mm
Crew : 4 troops
Speed : 14mps
Rate of Fire : 6 rounds/m
Range of fire : Max 40km
Cost/Unit : -USD
Operator : Singapore
0 comments:
Post a Comment