ผมได้รับโทรศัพท์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แจ้งว่าที่ "ขอให้ช่วยนำทรายที่ประชาชนจะบริจาคให้นำไปส่งที่วัด" ถือว่าเป็นการทำบุญช่วยๆกัน แม้ว่าจะต้องข้ามเมืองท่ามกลางสภาพน้ำท่วมใหญ่
ไหนๆก็ไหนๆแล้วตรวจสอบเส้นทางเสร็จ ...เอ้ารถใหญ่ผ่านไปได้ แต่รถเรามันเก่ามากเลย ทำไงดี อืม..เดี๋ยวจะเป็นการขัดศรัทธา ไปเอาทรายมาแล้วด้วย คงต้องทำให้จบ ว่าแล้วก็ขนทรายขึ้นรถ ติดต่อคนนำทาง พร้อมออกเดินทางประมาณสิบโมงเช้าวันอาทิตย์
ชั่งใจว่าจะไปเพชรเกษมหรือปิ่นเกล้า-นครไชยศรีดี ถ้าไปเพชรเกษมรถติดแน่ การจราจรคับคั่ง รถเราก็เก่า พวงมาลัยซ้าย พาวเย่อ เผลอๆจะเจออุบัติเหตุอีก เลยลองเสี่ยงไปปิ่นเกล้า-นครไชยศรีดู
ไปถึงสะพานข้ามแยก ช่วงจะข้ามไปศาลายาและเข้าปิ่นเกล้า มีการปิดถนน แต่ถามเจ้าหน้าที่ตรงนั้นได้รับแจ้งว่า รถใหญ่ไปได้ ก็ลองดู พอข้ามสะพานที่มีรถจอดตลอดข้างทาง ลงสะพานก็เจอน้ำเลยครับ เอาไงดี ส่งสเก๊าท์หน้าไปเดินดูน้ำประมาณเอว เอาว่ะใหนๆก็มาแล้วลุย
พอข้ามช่วงแรกมาได้ก็เจอสะพานข้ามคลอง ข้างทางก็บอกให้เบาๆหน่อยกลัวพนังทรายพัง เราก็อยากเบาแต่รถมันหยุดไมได้เดี๋ยวน้ำเข้าเครื่อง ต้องลุยเพื่อไล่น้ำ ก็ได้แต่ขอโทษขอโพยกันไป ถึงสะพานก็มีรถจอดเสียบ้าง จอดรอไปไม่้ได้บ้าง มีประชาชนนั่งรออยู่ไม่รู้มาจากใหน มาได้ยังไง เขาก็ขอขึ้นไปด้วย บ้างจะไปสาย ๒ บ้างจะไปปิ่นเกล้า เอ้าขึ้นมาเลยครับเสี่ยงไปด้วยกัน
ระหว่างทางก็มีน้ำสลับกับที่แห้งเป็นระยะสภาพก็อย่างที่เห็นครับ ไม่น่าเชื่อว่าถนนปิ่นเกล้า-นครไชยศรีที่ผมเคยขับรถไป-กลับบ่อยมาก ใช้เวลาสั้นนิดเดียวแต่วันนี้แต่จะไปวงแหวนรอบนอกมันใช้เวลานานมาก และเป็นการเดินทางที่ยาวนานมากๆ กลัวรถจะไม่ใหวก็กลัว แต่จะหันหลังกลับก็ไม่ได้แล้ว ทั้งรถทั้งลูกน้องอีก 7 ชีวิต ทรายของวัดอีก เอ้าลุยต่อ
เจอสภาพนี้แล้วท้อครับ จะถอดใจแล้วไม่ไหว สู้กับน้ำ สู้กับสภาพรถ บรรทุกทรายมาเต็มคัน ผู้โดยสารอีกเต็มรถ เอาไงดี
ถ้าน้ำมันหมด ก็ไม่มีให้เติมแล้วนะครับ เป็นเมืองบาดาล ทุกสิ่งจมอยู่ใต้น้ำ The Underwater world ของจริงครับ ฮอลลี่วูดยังทำได้ไม่เหมือน มีให้เลือกสองทางคือหันหลังกลับ และไปให้ถึงวงแหวนรอบนอก แล้วเลี้ยวกลับเข้าเพชรเกษม
ระหว่างทางเจอขบวนคาราวาน โฟร์วีล จากราชบุรี รู้สึกจะเป็น ราชบุรีโฟร์บาย หรือไงเนี่ยแหละครับ ขนกล้วยขนน้ำ อาหารของบริจาคมาเต็มประมาณเกือบสิบคันได้ อืม..ขนาดเขาเป็นพลเรือนนะยังสู้เลย เขาติดป้ายไวนิลไว้หลังรถ "เพราะมีคนรออยู่ กูจึงต้องไป คนไทยไม่ทิ้งกัน" อาจจะจำข้อความผิดหรือไม่ครบก็ขออภัยด้วยนะครับ แต่ประมาณนี้แหละ
จัดไปครับ ให้พี่ๆคาราวานไปก่อนละกัน นำทางไปเลย ถ้าพวกคุณจม ผมก็จะได้ไม่ไป (ใครจะลากรถผมได้บ้าง) พี่ๆเขาจะไปบางบัวทองครับ เขาบอกว่าเคยแต่ปีนเขา ชิวๆ แต่เจอน้ำนี่ก็ยังไม่เคยครับ
ระหว่างทางก็มีประชาชนทั้งขอโดยสารไปด้วย ทั้งขอลงตลอดทาง ก็เห็นใจครับ มีรถทหารของ พัน.ช.คมส., ร้อย.ช.(จำไม่ได้), ป.พัน.๓, ป.พัน.๑๐๓ ทหารเรือ ซึ่งเป็นรถใหม่ ใหญ่ๆทั้งนั้นน่าจะรถสิบตัน แต่นานๆเขาจะมาที ประชาชนบางคนรอไม่ไหวก็มานั่งบนรถทรายผมนี่แหละ
เอ้านำไปเลยพี่ เดี๋ยวผมระวังหลังให้ ถ้าจมแล้วบอกด้วยนะ ผมจะได้ไม่ไป (อิอิ..เดี๋ยวผมช่วยลากให้ก็ได้)
ระหว่างทางครับ สภาพก็เป็นอย่างที่เห็นครับ มีนายทหารยศพันเอกท่านนึงมาขอความช่วยเหลือระหว่างที่เราจอดพักเหนื่อย(เหนื่อยใจเป็นอย่างยิ่ง) รถของท่านจอดจมน้ำอยู่ฝั่งตรงข้าม ถ้าผมจะลากผมต้องไปกลับรถที่ใหนก็ไม่รู้ เลยไม่ได้ช่วย(ขอโทษด้วยนะครับ) ท่านเลยไปขอรถทหารเรือที่อยู่ฝั่งเดียวกัน พอดีเขาผ่านมา ไม่รู้ว่าช่วยได้หรือเปล่า ขอโทษจิงๆนะครับ
ไปกันต่อเลยครับ สู้ๆ
ระหว่างทางไปเจอรถของบรรเทาสาธารณภัยเพชรบุรีจอดเสียอยู่ข้างทาง บอกว่าแบตหมด จะขอพ่วงแบต แบตเราก็ไม่ชัวร์ว่าจะพอหรือเปล่า สายพ่วงแบตก็สั้นมาก(มันอยู่คนละฝั่ง) ถ้าจะพ่วงผมต้องกลับรถในสภาพน้ำท่วม คาราวานรถโฟร์วีลก็จ่อท้ายจมอยู่ในน้ำต้องการจะรีบขึ้นมาอีก ก็เลยต้องรีบไปเพราะหนทางอีกยาวไกล ขอพ่วงกับโฟร์วีลละกันนะพี่
ในที่สุดเราก็มาถึงหน้าโลตัสบางใหญ่ประมาณบ่ายสองกว่าๆ ไปเลี้ยวเข้าซอยวัดพระเงิน ชาวบ้านบอกว่าเข้าได้ หกล้อยังเข้าได้เลย เอ้ามาถึงนี่แล้วลุยต่อครับ
สุดท้ายถึงหน้าวัดพระเงินครับ แต่ไปไม่ถึงวัดป่า เลยต้องขนทรายลงแล้วติดต่อวัดนำเรือมาขนไปต่อ ตรวจสอบอยู่นาน กว่าจะพบว่าน้ำเข้าถังน้ำมันก็เกือบเย็นแล้ว ต้องทิ้งน้ำมันในถังให้หมด(ตอนมาก็ครึ่งถังตอนนี้ก็ยังมีอยู่ครึ่งถังเหมือนเดิมแต่สีเปลี่ยนไป)
เลยต้องอาศัยรถไฮลักซ์ ไมตี้เอ็ก ตัวแรงของพระอาจารย์ช่วยลากออกไปถนนวงแหวนก่อน น่าขายหน้าจิง จะไปช่วยวัด กลับเป็นภาระให้วัดมาช่วยอีก
ขอพระอาจารย์เป็นแบ็กกราวน์หน่อยนะครับ ไมตี้เอ็กตัวนี้แรงจิงๆ ครับ โมดิฟายด์เรียบร้อย ต่อท่อน้ำมันจากหลังคาโดยตรง น้ำท่วมไม่ถึง มีแบตสำรองตัวใหญ่มาก ได้ยินแต่เสียงท่อไอเสียดันน้ำออก บุ๊บๆๆๆๆๆๆ ไปตลอดทาง
พอออกมาถึงวงแหวนรอบนอกก็จอดรอหน้าโลตัสที่เดิมประมาณหกโมงเย็น พระอาจารย์ก็ไปซื้อน้ำมัน แถวนั้นปั๊มปิดหมดแล้ว ไม่มีที่ใหนขายแล้ว ก็คงไปไกลพอสมควร ระหว่างทางท่านก็ช่วยประชาชนรับส่งไปด้วยก็เลยนาน กลับมาก็ทราบว่าแบตหมด แต่ยังดีที่มีแบตสำรองอยู่ ก็เติมน้ำมันไล่น้ำมันออกจากเครื่องกันอยู่นาน แต่น้องๆทหารก็ยังอารมณ์ดีกันอยู่ เพราะมีสาวๆเดิมผ่านกันเยอะ ก็ช่วยถือของบ้าง อะไรบ้างตามประสาวัยรุ่นเลยไม่เครียดกันเท่าใหร่
สตาร์ทรถติดก็เดินทางกลับกันพร้อมผู้โดยสารชุดสุดท้ายจะไปวัดไร่ขิง ขอไปลงที่แยกสายสี่ ก็จบภารกิจไปได้ด้วยดี ขอบคุณขบวนคาราวานจากราชบุรีสำหรับขนม ข้ามต้มมัด ขอบคุณประชาชนสำหรับกระทิงแดงและน้ำเปล่า ขอบคุณอาคนนำทางสำหรับขนมและนมให้น้องๆพลทหารก่อนนอนครับ
เป็นกำลังใจให้พี่น้องที่ประสบภัยทุกคน คนไทยไม่ทิ้งกันครับ อยากช่วยแต่รถมันไม่ไหวจิงๆ
ขอบคุณผู้โดยสารทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจเดินทางไปกับเรา
0 comments:
Post a Comment